วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553
เรื่องของแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวกับภาวะโลกร้อนจะเกี่ยวพันกันหรือไม่ เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายกำลัง พิสูจน์อยู่
ในตอนนี้ขอเกริ่นนำ เรื่องแผ่นดินไหว โดยทั่วไปก่อน เพื่อเป็นการปูทาง หาข้อพิสูจน์ที่อาจเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ให้นิยามคำว่า แผ่นดินไหวว่า
แผ่นดินไหว เป็นปรากฎการณ์การสั่นสะเทือนหรือเขย่าของพื้นผิวโลก สาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวนั้นส่วนใหญ่เกิดจากธรรมชาติ โดยแผ่นดินไหวบางลักษณะสามารถเกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้ เช่น การทดลองระเบิดปรมาณู การปรับสมดุลเนื่องจากน้ำหนักของน้ำที่กักเก็บในเขื่อน และแรงระเบิดของการทำเหมืองแร่ เป็นต้น
แผ่นดินไหวจากธรรมชาติ
แผ่น ดินไหวจากธรรมชาติเป็นธรณีพิบัติภัยชนิดหนึ่ง ส่วนมากเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อระบายความเครียด ที่สะสมไว้ภายในโลกออกมาอย่างฉับพลันเพื่อปรับสมดุลย์ของเปลือกโลกให้คงที่ โดยปกติเกิดจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อน ภายในชั้นเปลือกโลกที่อยู่ด้านนอกสุดของโครงสร้างของโลก มีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ อยู่เสมอ (ดู การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก) แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อความเค้นอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงมีมากเกินไป ภาวะนี้เกิดขึ้นบ่อยในบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลก ที่ที่แบ่งชั้นเปลือกโลกออกเป็นธรณีภาค (lithosphere) เรียกแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกนี้ว่า แผ่นดินไหวระหว่างแผ่น (interplate earthquake) ซึ่งเกิดได้บ่อยและรุนแรงกว่า แผ่นดินไหวภายในแผ่น (intraplate earthquake)
โดยสรุปเบื้องต้น
สำหรับการเกิดแผ่นดินไหว มีสาเหตุการเกิด ๒ ประการ คือ
๑) ภูเขาไฟระเบิด
๒) การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ซึ่งมักจะเป็นขนาดใหญ่ และมีความรุนแรงมากส่วนมากจะเกิดในระดับลึก ๆ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด สองเหตุการณ์ใหญ่ๆ คือ
วัน ที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดเหตุแผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นยักษ์ “ซึนามิ” สูงกว่า 10 เมตร ถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ด้านทะเลอันดามัน คือ จังหวัดตรัง ภูเก็ต พังงา และ ประเทศใกล้เคียงมีผลให้คนเสียชีวิตเป็นหลักแสน
ปี ๒๕๔๒ เพียงปีเดียว ก็มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว อย่างน้อยสามครั้ง ทั้งที่ตุรกี โคลัมเบีย และไต้หวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตร่วม ๒ หมื่นราย
ปี ๒๕๓๘ ที่โกเบ ประเทศญี่ปุ่น แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาด ๗.๒ ริคเตอร์ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนถล่มทลาย และมีผู้เสียชีวิตกว่า ๖,๐๐๐ คน
ซึ่งกรณีหลังสุดเกิดในประเทศญี่ป่นที่ได้ชื่อว่ามีระบบป้องกันแผ่นดินไหวดีที่สุดในโลก
แผ่นดินไหวเกิดจากอะไรแน่?
มีหลายทฤษฎี ที่พูดถึง ในอดืต (ข้อมูลจาก http://www.sarakadee.com)
อัล เฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener ค.ศ. ๑๘๘๐-๑๙๓๐) นักอุตุนิยมวิทยาชาวเยอรมัน มีคำถามอยู่ในใจเช่นเดียวกับนักภูมิศาสตร์ เกี่ยวกับแนวขอบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ของทวีปอเมริกาใต้ และแอฟริกาที่ดูจะต่อเข้ากันได้สนิท คล้ายชิ้นส่วนของภาพต่อจิกซอว์ เขาตั้งสมมุติฐานว่า การต่อเข้ากันได้สนิท อาจหมายความว่าทวีปทั้งสอง เคยเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน ก่อนที่จะแยกออกจากกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็แสดงว่าผืนทวีปขนาดยักษ์มีการเคลื่อนที่
เพื่อพิสูจน์สมมุติฐานนี้ เวเกเนอร์จึงได้ศึกษาวิชาแขนงอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ธรณีวิทยา และสิ่งมีชีวิตโบราณ และได้พบว่าไม่เพียงแต่รูปร่าง ของชายฝั่งมหาสมุทรทั้งสองทวีปจะสอดคล้องกันเท่านั้น แต่ลักษณะทางธรณีวิทยา และซากสิ่งมีชีวิตโบราณที่พบก็คล้ายคลึงกันด้วย แสดงว่าทวีปได้แยกจากกันหลังจากที่สัตว์ และพืชตายลง และฝังอยู่ในชั้นหิน
ใน ปี ค.ศ. ๑๙๑๒ เวเกเนอร์ได้ประกาศทฤษฎี การเคลื่อนที่ของทวีปเป็นครั้งแรก ทฤษฎีนี้ได้แพร่หลายในปี ค.ศ. ๑๙๑๕ พร้อม ๆ กับหนังสือของเขาที่ชื่อ ที่มาของทวีปและมหาสมุทร (The Origin of Continents and Ocean) เวเกเนอร์ได้อธิบายว่า แผ่นดินทุกทวีปมีร่องรอย อันอาจประกบเข้าให้กลายเป็นทวีปมหึมาทวีปเดียวได้ และได้ให้นามผืนทวีปนี้ว่า "พังเกีย" (Pangaea) เขาเชื่อว่าในสมัยแรกที่มีแผ่นดินนั้น มหาทวีปพังเกีย อยู่แถบซีกโลกทางใต้ และเพิ่งจะแตกแยกออก ในราวยุคไดโนเสาร์ คือเมื่อประมาณ ๑๘๐ ล้านปีมานี้ จนกลายมาเป็นทวีปต่าง ๆ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
แต่เนื่องจากนักวิชาการส่วนใหญ่ในสมัยนั้น ยังไม่เชื่อว่า ในโลกนี้จะมีแรงอะไรที่มีพลังมากพอ ที่จะผลักดันให้ผืนทวีปเลื่อนออกจากกันได้ และทฤษฎีทวีปเลื่อน ของเวเกเนอร์เองก็ไม่อาจตอบคำถามสำคัญข้อนี้ ดังนั้นจึงมีผู้โต้แย้งทฤษฎีของเวเกเนอร์ โดยอ้างว่าความคล้ายคลึงกันของพืช ที่เวเกเนอร์กล่าวถึง อาจจะมาจากเมล็ด และละอองเกสรที่ปลิวมาตามลม ส่วนความคล้ายคลึงกันของสัตว์ที่อยู่ต่างทวีป ก็อาจเกิดจากสัตว์ขนาดใหญ่เดินข้ามมหาสมุทร ในบริเวณที่มีสะพานเชื่อมต่อกัน เช่นบริเวณอะแลสกา- ไซบีเรีย แต่สะพานนี้ได้ยุบหายไปในทะเล ในบางช่วงเวลา แนวคิดโต้แย้งเหล่านี้ ได้ทำให้ทฤษฎีทวีปเลื่อนถูกละทิ้งไปจากวงการศึกษา ไปจนตลอดชีวิตของเวเกเนอร์
จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีการพัฒนาเทคโนโลยี และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีผู้คิดหาคำตอบในคำถามสำคัญ ที่ยังคงค้างไว้ในทฤษฎีทวีปเลื่อน ของเวเกเนอร์จนเป็นผลสำเร็จ ผู้ที่ให้คำตอบนี้เป็นนักธรณีวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ชื่อ แฮรี เฮส (Harry Hammond Hess ค.ศ. ๑๙๐๖-๑๙๖๙) เฮสเชื่อในทฤษฎีทวีปเลื่อน ของเวเกเนอร์มาตั้งแต่ต้น และยังได้ศึกษาเพิ่มเติมในแนวคิดของ อาร์เธอร์ โฮล์มส์ (Arthur Holmes) นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษช่วงทศวรรษ ๑๙๓๐ จนในที่สุดเมื่อ ค.ศ. ๑๙๕๙ เฮสก็ได้ประกาศแนวคิด เกี่ยวกับการแยกตัวกันของพื้นมหาสมุทรแอตแลนติก และได้ตีพิมพ์เผยแพร่แนวคิดนี้ ลงในหนังสือชื่อ History of Ocean Basins ในปี ค.ศ. ๑๙๖๒ แนวคิดดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญ ในการพัฒนาไปสู่ ทฤษฎีทวีปเลื่อนยุคใหม่ เฮสกล่าวว่าท้องมหาสมุทรแอตแลนติก มีสันเขาอยู่ใต้น้ำ ผ่ากลางมหาสมุทรตั้งแต่เหนือจรดใต้ สันเขาใต้น้ำนี้ เกิดจากแมกม่า หรือหินละลายภายใต้เปลือกโลกที่ดันตัวขึ้นมา ตรงรอยแยกของแผ่นทวีป ทำให้เกิดพื้นมหาสมุทรใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พื้นมหาสมุทรที่เกิดใหม่นี้ จะดันพื้นมหาสมุทรเดิมให้ค่อย ๆ ขยับห่างออกจากกันทีละน้อย เป็นเวลาติดต่อกันหลายร้อยล้านปี ด้วยเหตุนี้ทวีปอเมริกาจึงค่อย ๆ เคลื่อนจากทวีปแอฟริกาทีละน้อย ๆ และแยกจากกันเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เฟรเดอริก ไวน์ (Frederick Vine) และ ดรัมมอนด์ แมททิวส์(Drammond Matthews) สองนักธรณีวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร ได้พยายามอธิบายเรื่องทวีปเลื่อน โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กโลก และคุณสมบัติของหินละลาย ซึ่งมีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ เมื่อหินละลายพุ่งขึ้นมาสู่เปลือกโลก สารแม่เหล็กที่มากับหินละลาย จะวางตัวตามแนวแม่เหล็กโลกในทิศเหนือใต้ในขณะนั้น เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงไป ก็จะทำให้แนวงอกของทวีปเปลี่ยนตาม และทำให้ทวีปเลื่อนอย่างเปลี่ยนทิศทาง
จอห์น ทูโซ วิลสัน (John Tuzo Wilson ค.ศ. ๑๙๐๘-๑๙๙๓) นักภูมิฟิสิกส์ชาวแคนาดา เป็นอีกผู้หนึ่งที่เสนอแนวความคิดสำคัญ ที่ช่วยให้ทฤษฎีทวีปเลื่อนยุคใหม่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในวัยหนุ่มวิลสันเข้าศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งในขณะนั้น แฮรี เฮส มาเป็นอาจารย์ผู้บรรยาย ที่มีอายุมากกว่าเพียงสองปี วิลสันสนใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ฮาวายและหมู่เกาะภูเขาไฟใกล้เคียง โดยได้ตั้งสมมุติฐานว่า หมู่เกาะเหล่านี้อาจถือกำเนิดมาจาก Hot Spot อันเป็นพลังงานความร้อนมหาศาล ของหินละลายที่พวยพุ่งขึ้นมา จากส่วนลึกของชั้นแมนเทิล (mantle) ใต้เปลือกโลก สมมุติฐานเรื่อง Hot Spot ได้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อ ค.ศ. ๑๙๖๓ ใน The Canadian Journal of Physics
ตลอดทศวรรษ ๑๙๖๐-๑๙๗๐ ยังมีความรู้ และการค้นพบใหม่ ๆ ของนักวิทยาศาสตร์อีกหลายกลุ่ม ที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องราว เกี่ยวกับทวีปเลื่อนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ความรู้ความคิดใหม่ ๆ เหล่านี้ได้พัฒนาขึ้นมาสู่ทฤษฎีทวีปเลื่อนยุคใหม่ ที่นอกจากจะอธิบายการเคลื่อนที่ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของแผ่นเปลือกโลกแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้ถึงพลังงานมหาศาล ภายใต้เปลือกโลก พลังที่แยกผืนทวีปมหึมาออกจากกัน ยกแผ่นดินที่ราบขึ้นเป็นเทือกเขา พลังที่สำแดงอำนาจทำลายล้าง ในรูปของภูเขาไฟที่ก้าวร้าวดุดัน หรือคลื่นแผ่นดินไหวที่ถล่มอาคารบ้านเรือนจนพังทลาย บิดรางรถไฟเหล็กกล้าให้คดงอ รวมถึงพลังที่แปรเปลี่ยนกระแสน้ำในทะเล ให้กลายเป็นคลื่นยักษ์ เข้าถาโถมทำลายเมืองชายฝั่งจนราบเป็นหน้ากลอง
ทฤษฎีนี้รู้จักกันในชื่อ "เพลตเทคโทนิก" (Plate Tectonics)
แต่ที่แน่ๆ แผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่ทำนายได้ยากยิ่ง
เรามาดูภาพแผ่นดินไหววันนี้กัน โดยปรกติ ผู้เขียนจะ คอยสังเกตุ การเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเกือบทุกวันเป็นประจำ
ใน ระยะนี้ ได้สังเกตุเห็นถึงความผิดปรกติของการเกิดแผ่นดินไหวที่เกืดขึ้น ถี่และ บ่อย รวมทั้งหนาแน่นมากในทุกเขตของโลก โจกภาพประกอบ ทั้งเอเชียและ อเมริกา
เอเชีย today 17-12-07
โซนอเมริกา
จากทั้งสองรูปแสดงถึงความผิดปรกติ ค่อนข้างมาก โดยแสดงถึง ความหนาแน่นของการเกิด ตามรอย แนว RIng of fire ที่มากน่าจะเข้าเกณฑ์ผิดปรกติ (ในความเห็นผู้เขียน)
สมมุติฐานที่ผู้ เขียน คิดเอาเอง ว่าการเกิดแผ่นดินไหวอย่างมากและรุนแรงในปัจจุบันน่าจะเชื่อมโยงกับภาวะโลก ร้อน (Global Warming) โดยอ้างจาก ทฤษฎีที่รู้จักกันในชื่อ "เพลตเทคโทนิก" (Plate Tectonics)(ที่มาจาก http://www.sarakadee.com) คือ ชิ้นส่วนของเปลือกโลกที่เรียกว่า "แผ่นเปลือกโลก" หรืออาจเรียกทับศัพท์ว่า "เพลต" (plate) โดยมีเพลตอยู่ ๑๖ ชิ้นที่ประกอบกันเข้าเป็นเปลือกโลก แบ่งเป็นแผ่นทวีปและแผ่นมหาสมุทร อย่างไรก็ตามขอบของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นไม่ได้ประกบกันเข้าอย่างแผ่นภาพ ต่อ แผ่นเปลือกโลกบางแผ่น เคลื่อนที่ในลักษณะเลื่อนตัวแยกออกจากกัน (spreading) ดังนั้นบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกจึงเคลื่อนตัวออกจากกัน (diverging boundary) บางแผ่นก็เลื่อนเข้าไปชนกัน (collision) จนเกิดการเกยกัน ระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น (converging boundary) หรือเปลือกโลกแผ่นใดแผ่นหนึ่ง อาจจะมุดลอดอยู่ใต้เปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่ง (subduction) สิ่งสำคัญที่ทำให้โลกของเรา ต่างจากแผ่นภาพต่อโดยสิ้นเชิง ก็คือ แผ่นเปลือกโลกทั้ง ๑๖ แผ่นที่ประกอบกันเข้าเป็นเปลือกโลกนั้น มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา บางทีก็เคลื่อนที่ผ่านกัน และเฉียดกันในทิศทางที่สวนกัน จนเกิดเป็นรอยเลื่อนด้านข้างขนาดใหญ่ (transform fault) อัตราการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นนั้น นับว่าช้ามาก ๆ โดยเฉลี่ยแล้วเพียงแค่ ๒.๕ ซม. ต่อปี หรือเทียบง่าย ๆ ว่าพอ ๆ กับเล็บมือของเราที่งอกออกมาในแต่ละปี
ที่มา : http://niceoppai.49.forumer.com/viewtopic.php?f=2&t=267&start=0
ในตอนนี้ขอเกริ่นนำ เรื่องแผ่นดินไหว โดยทั่วไปก่อน เพื่อเป็นการปูทาง หาข้อพิสูจน์ที่อาจเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ให้นิยามคำว่า แผ่นดินไหวว่า
แผ่นดินไหว เป็นปรากฎการณ์การสั่นสะเทือนหรือเขย่าของพื้นผิวโลก สาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวนั้นส่วนใหญ่เกิดจากธรรมชาติ โดยแผ่นดินไหวบางลักษณะสามารถเกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้ เช่น การทดลองระเบิดปรมาณู การปรับสมดุลเนื่องจากน้ำหนักของน้ำที่กักเก็บในเขื่อน และแรงระเบิดของการทำเหมืองแร่ เป็นต้น
แผ่นดินไหวจากธรรมชาติ
แผ่น ดินไหวจากธรรมชาติเป็นธรณีพิบัติภัยชนิดหนึ่ง ส่วนมากเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อระบายความเครียด ที่สะสมไว้ภายในโลกออกมาอย่างฉับพลันเพื่อปรับสมดุลย์ของเปลือกโลกให้คงที่ โดยปกติเกิดจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อน ภายในชั้นเปลือกโลกที่อยู่ด้านนอกสุดของโครงสร้างของโลก มีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ อยู่เสมอ (ดู การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก) แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อความเค้นอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงมีมากเกินไป ภาวะนี้เกิดขึ้นบ่อยในบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลก ที่ที่แบ่งชั้นเปลือกโลกออกเป็นธรณีภาค (lithosphere) เรียกแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกนี้ว่า แผ่นดินไหวระหว่างแผ่น (interplate earthquake) ซึ่งเกิดได้บ่อยและรุนแรงกว่า แผ่นดินไหวภายในแผ่น (intraplate earthquake)
โดยสรุปเบื้องต้น
สำหรับการเกิดแผ่นดินไหว มีสาเหตุการเกิด ๒ ประการ คือ
๑) ภูเขาไฟระเบิด
๒) การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ซึ่งมักจะเป็นขนาดใหญ่ และมีความรุนแรงมากส่วนมากจะเกิดในระดับลึก ๆ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด สองเหตุการณ์ใหญ่ๆ คือ
วัน ที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดเหตุแผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นยักษ์ “ซึนามิ” สูงกว่า 10 เมตร ถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ด้านทะเลอันดามัน คือ จังหวัดตรัง ภูเก็ต พังงา และ ประเทศใกล้เคียงมีผลให้คนเสียชีวิตเป็นหลักแสน
ปี ๒๕๔๒ เพียงปีเดียว ก็มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว อย่างน้อยสามครั้ง ทั้งที่ตุรกี โคลัมเบีย และไต้หวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตร่วม ๒ หมื่นราย
ปี ๒๕๓๘ ที่โกเบ ประเทศญี่ปุ่น แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาด ๗.๒ ริคเตอร์ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนถล่มทลาย และมีผู้เสียชีวิตกว่า ๖,๐๐๐ คน
ซึ่งกรณีหลังสุดเกิดในประเทศญี่ป่นที่ได้ชื่อว่ามีระบบป้องกันแผ่นดินไหวดีที่สุดในโลก
แผ่นดินไหวเกิดจากอะไรแน่?
มีหลายทฤษฎี ที่พูดถึง ในอดืต (ข้อมูลจาก http://www.sarakadee.com)
อัล เฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener ค.ศ. ๑๘๘๐-๑๙๓๐) นักอุตุนิยมวิทยาชาวเยอรมัน มีคำถามอยู่ในใจเช่นเดียวกับนักภูมิศาสตร์ เกี่ยวกับแนวขอบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ของทวีปอเมริกาใต้ และแอฟริกาที่ดูจะต่อเข้ากันได้สนิท คล้ายชิ้นส่วนของภาพต่อจิกซอว์ เขาตั้งสมมุติฐานว่า การต่อเข้ากันได้สนิท อาจหมายความว่าทวีปทั้งสอง เคยเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน ก่อนที่จะแยกออกจากกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็แสดงว่าผืนทวีปขนาดยักษ์มีการเคลื่อนที่
เพื่อพิสูจน์สมมุติฐานนี้ เวเกเนอร์จึงได้ศึกษาวิชาแขนงอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ธรณีวิทยา และสิ่งมีชีวิตโบราณ และได้พบว่าไม่เพียงแต่รูปร่าง ของชายฝั่งมหาสมุทรทั้งสองทวีปจะสอดคล้องกันเท่านั้น แต่ลักษณะทางธรณีวิทยา และซากสิ่งมีชีวิตโบราณที่พบก็คล้ายคลึงกันด้วย แสดงว่าทวีปได้แยกจากกันหลังจากที่สัตว์ และพืชตายลง และฝังอยู่ในชั้นหิน
ใน ปี ค.ศ. ๑๙๑๒ เวเกเนอร์ได้ประกาศทฤษฎี การเคลื่อนที่ของทวีปเป็นครั้งแรก ทฤษฎีนี้ได้แพร่หลายในปี ค.ศ. ๑๙๑๕ พร้อม ๆ กับหนังสือของเขาที่ชื่อ ที่มาของทวีปและมหาสมุทร (The Origin of Continents and Ocean) เวเกเนอร์ได้อธิบายว่า แผ่นดินทุกทวีปมีร่องรอย อันอาจประกบเข้าให้กลายเป็นทวีปมหึมาทวีปเดียวได้ และได้ให้นามผืนทวีปนี้ว่า "พังเกีย" (Pangaea) เขาเชื่อว่าในสมัยแรกที่มีแผ่นดินนั้น มหาทวีปพังเกีย อยู่แถบซีกโลกทางใต้ และเพิ่งจะแตกแยกออก ในราวยุคไดโนเสาร์ คือเมื่อประมาณ ๑๘๐ ล้านปีมานี้ จนกลายมาเป็นทวีปต่าง ๆ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
แต่เนื่องจากนักวิชาการส่วนใหญ่ในสมัยนั้น ยังไม่เชื่อว่า ในโลกนี้จะมีแรงอะไรที่มีพลังมากพอ ที่จะผลักดันให้ผืนทวีปเลื่อนออกจากกันได้ และทฤษฎีทวีปเลื่อน ของเวเกเนอร์เองก็ไม่อาจตอบคำถามสำคัญข้อนี้ ดังนั้นจึงมีผู้โต้แย้งทฤษฎีของเวเกเนอร์ โดยอ้างว่าความคล้ายคลึงกันของพืช ที่เวเกเนอร์กล่าวถึง อาจจะมาจากเมล็ด และละอองเกสรที่ปลิวมาตามลม ส่วนความคล้ายคลึงกันของสัตว์ที่อยู่ต่างทวีป ก็อาจเกิดจากสัตว์ขนาดใหญ่เดินข้ามมหาสมุทร ในบริเวณที่มีสะพานเชื่อมต่อกัน เช่นบริเวณอะแลสกา- ไซบีเรีย แต่สะพานนี้ได้ยุบหายไปในทะเล ในบางช่วงเวลา แนวคิดโต้แย้งเหล่านี้ ได้ทำให้ทฤษฎีทวีปเลื่อนถูกละทิ้งไปจากวงการศึกษา ไปจนตลอดชีวิตของเวเกเนอร์
จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีการพัฒนาเทคโนโลยี และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีผู้คิดหาคำตอบในคำถามสำคัญ ที่ยังคงค้างไว้ในทฤษฎีทวีปเลื่อน ของเวเกเนอร์จนเป็นผลสำเร็จ ผู้ที่ให้คำตอบนี้เป็นนักธรณีวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ชื่อ แฮรี เฮส (Harry Hammond Hess ค.ศ. ๑๙๐๖-๑๙๖๙) เฮสเชื่อในทฤษฎีทวีปเลื่อน ของเวเกเนอร์มาตั้งแต่ต้น และยังได้ศึกษาเพิ่มเติมในแนวคิดของ อาร์เธอร์ โฮล์มส์ (Arthur Holmes) นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษช่วงทศวรรษ ๑๙๓๐ จนในที่สุดเมื่อ ค.ศ. ๑๙๕๙ เฮสก็ได้ประกาศแนวคิด เกี่ยวกับการแยกตัวกันของพื้นมหาสมุทรแอตแลนติก และได้ตีพิมพ์เผยแพร่แนวคิดนี้ ลงในหนังสือชื่อ History of Ocean Basins ในปี ค.ศ. ๑๙๖๒ แนวคิดดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญ ในการพัฒนาไปสู่ ทฤษฎีทวีปเลื่อนยุคใหม่ เฮสกล่าวว่าท้องมหาสมุทรแอตแลนติก มีสันเขาอยู่ใต้น้ำ ผ่ากลางมหาสมุทรตั้งแต่เหนือจรดใต้ สันเขาใต้น้ำนี้ เกิดจากแมกม่า หรือหินละลายภายใต้เปลือกโลกที่ดันตัวขึ้นมา ตรงรอยแยกของแผ่นทวีป ทำให้เกิดพื้นมหาสมุทรใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พื้นมหาสมุทรที่เกิดใหม่นี้ จะดันพื้นมหาสมุทรเดิมให้ค่อย ๆ ขยับห่างออกจากกันทีละน้อย เป็นเวลาติดต่อกันหลายร้อยล้านปี ด้วยเหตุนี้ทวีปอเมริกาจึงค่อย ๆ เคลื่อนจากทวีปแอฟริกาทีละน้อย ๆ และแยกจากกันเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เฟรเดอริก ไวน์ (Frederick Vine) และ ดรัมมอนด์ แมททิวส์(Drammond Matthews) สองนักธรณีวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร ได้พยายามอธิบายเรื่องทวีปเลื่อน โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กโลก และคุณสมบัติของหินละลาย ซึ่งมีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ เมื่อหินละลายพุ่งขึ้นมาสู่เปลือกโลก สารแม่เหล็กที่มากับหินละลาย จะวางตัวตามแนวแม่เหล็กโลกในทิศเหนือใต้ในขณะนั้น เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงไป ก็จะทำให้แนวงอกของทวีปเปลี่ยนตาม และทำให้ทวีปเลื่อนอย่างเปลี่ยนทิศทาง
จอห์น ทูโซ วิลสัน (John Tuzo Wilson ค.ศ. ๑๙๐๘-๑๙๙๓) นักภูมิฟิสิกส์ชาวแคนาดา เป็นอีกผู้หนึ่งที่เสนอแนวความคิดสำคัญ ที่ช่วยให้ทฤษฎีทวีปเลื่อนยุคใหม่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในวัยหนุ่มวิลสันเข้าศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งในขณะนั้น แฮรี เฮส มาเป็นอาจารย์ผู้บรรยาย ที่มีอายุมากกว่าเพียงสองปี วิลสันสนใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ฮาวายและหมู่เกาะภูเขาไฟใกล้เคียง โดยได้ตั้งสมมุติฐานว่า หมู่เกาะเหล่านี้อาจถือกำเนิดมาจาก Hot Spot อันเป็นพลังงานความร้อนมหาศาล ของหินละลายที่พวยพุ่งขึ้นมา จากส่วนลึกของชั้นแมนเทิล (mantle) ใต้เปลือกโลก สมมุติฐานเรื่อง Hot Spot ได้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อ ค.ศ. ๑๙๖๓ ใน The Canadian Journal of Physics
ตลอดทศวรรษ ๑๙๖๐-๑๙๗๐ ยังมีความรู้ และการค้นพบใหม่ ๆ ของนักวิทยาศาสตร์อีกหลายกลุ่ม ที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องราว เกี่ยวกับทวีปเลื่อนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ความรู้ความคิดใหม่ ๆ เหล่านี้ได้พัฒนาขึ้นมาสู่ทฤษฎีทวีปเลื่อนยุคใหม่ ที่นอกจากจะอธิบายการเคลื่อนที่ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของแผ่นเปลือกโลกแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้ถึงพลังงานมหาศาล ภายใต้เปลือกโลก พลังที่แยกผืนทวีปมหึมาออกจากกัน ยกแผ่นดินที่ราบขึ้นเป็นเทือกเขา พลังที่สำแดงอำนาจทำลายล้าง ในรูปของภูเขาไฟที่ก้าวร้าวดุดัน หรือคลื่นแผ่นดินไหวที่ถล่มอาคารบ้านเรือนจนพังทลาย บิดรางรถไฟเหล็กกล้าให้คดงอ รวมถึงพลังที่แปรเปลี่ยนกระแสน้ำในทะเล ให้กลายเป็นคลื่นยักษ์ เข้าถาโถมทำลายเมืองชายฝั่งจนราบเป็นหน้ากลอง
ทฤษฎีนี้รู้จักกันในชื่อ "เพลตเทคโทนิก" (Plate Tectonics)
แต่ที่แน่ๆ แผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่ทำนายได้ยากยิ่ง
เรามาดูภาพแผ่นดินไหววันนี้กัน โดยปรกติ ผู้เขียนจะ คอยสังเกตุ การเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเกือบทุกวันเป็นประจำ
ใน ระยะนี้ ได้สังเกตุเห็นถึงความผิดปรกติของการเกิดแผ่นดินไหวที่เกืดขึ้น ถี่และ บ่อย รวมทั้งหนาแน่นมากในทุกเขตของโลก โจกภาพประกอบ ทั้งเอเชียและ อเมริกา
เอเชีย today 17-12-07
สมมุติฐานที่ผู้ เขียน คิดเอาเอง ว่าการเกิดแผ่นดินไหวอย่างมากและรุนแรงในปัจจุบันน่าจะเชื่อมโยงกับภาวะโลก ร้อน (Global Warming) โดยอ้างจาก ทฤษฎีที่รู้จักกันในชื่อ "เพลตเทคโทนิก" (Plate Tectonics)(ที่มาจาก http://www.sarakadee.com) คือ ชิ้นส่วนของเปลือกโลกที่เรียกว่า "แผ่นเปลือกโลก" หรืออาจเรียกทับศัพท์ว่า "เพลต" (plate) โดยมีเพลตอยู่ ๑๖ ชิ้นที่ประกอบกันเข้าเป็นเปลือกโลก แบ่งเป็นแผ่นทวีปและแผ่นมหาสมุทร อย่างไรก็ตามขอบของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นไม่ได้ประกบกันเข้าอย่างแผ่นภาพ ต่อ แผ่นเปลือกโลกบางแผ่น เคลื่อนที่ในลักษณะเลื่อนตัวแยกออกจากกัน (spreading) ดังนั้นบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกจึงเคลื่อนตัวออกจากกัน (diverging boundary) บางแผ่นก็เลื่อนเข้าไปชนกัน (collision) จนเกิดการเกยกัน ระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น (converging boundary) หรือเปลือกโลกแผ่นใดแผ่นหนึ่ง อาจจะมุดลอดอยู่ใต้เปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่ง (subduction) สิ่งสำคัญที่ทำให้โลกของเรา ต่างจากแผ่นภาพต่อโดยสิ้นเชิง ก็คือ แผ่นเปลือกโลกทั้ง ๑๖ แผ่นที่ประกอบกันเข้าเป็นเปลือกโลกนั้น มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา บางทีก็เคลื่อนที่ผ่านกัน และเฉียดกันในทิศทางที่สวนกัน จนเกิดเป็นรอยเลื่อนด้านข้างขนาดใหญ่ (transform fault) อัตราการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นนั้น นับว่าช้ามาก ๆ โดยเฉลี่ยแล้วเพียงแค่ ๒.๕ ซม. ต่อปี หรือเทียบง่าย ๆ ว่าพอ ๆ กับเล็บมือของเราที่งอกออกมาในแต่ละปี
ที่มา : http://niceoppai.49.forumer.com/viewtopic.php?f=2&t=267&start=0
วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553
อยากให้อ่าน, อย่าเพิ่งเบื่อที่จะอ่านน๊า
เอกสารลับเฉพาะของกระบวนการแบ่งแยกดินแดน และยึดครองประเทศไทย แปลจากภาษายาวีเป็นภาษาไทย โดยคนไทยรักชาติ โปรดช่วยกันพิมพ์เผยแพร่ ปลุกไทยให้ตื่นปกป้องคุ้มครองไทย **
TS - ทักษิณ
KTB - ธนาคารกรุงไทย
AKD - อัลไคด้า (กลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ)
MD - มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
KL - กัวลาลัมเปอร์
TK - ธรรมกาย
JI - ขบวนการก่อการร้ายในอินโดนีเซีย
BOR K. - ชายแดนรัฐกลันตัน
PT - ปัตตานี
NS - นราธิวาส
ST - สตูล
YL - ยะลา
LB - ลิเบีย
MT.B - ธนาคารทหารไทย
HI - หาดใหญ่
BKK - กรุงเทพฯ
TRANG - ตรัง
KLT - ?
........................... อยากให้เด็กไทยทุกคนได้อ่านนะ.....................
กลยุทธ์ที่ใช้มีดังนี้ (ตาลาลี๊ ตั่มปง)
ต้องเจาะให้ไทยมันเลือดไหลหมดตัว แล้วมันค่อยๆตาย โดยที่
1.การยุยงให้มันทะเลาะกันในหมู่พระสงฆ์ กษัตริย์ นักการเมือง ประชาชน นักศึกษา อาจจะต้องใช้เงินมากก็ต้องยอม
2. การขโมยเด็กไทยพุทธ ที่ทำมา 39 ปีแล้ว ต้องทำต่อ เพราะเด็กพวกนี้นำมาฝึกใช้งานได้ผลดี แต่เหลือเพียงไม่กี่ร้อย คงต้องใช้เงินไปซื้อ เด็กทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือสลับในภาคกลาง ถ้าไม่ได้เด็กไทยพุทธตามจำนวน ก็ต้องหลอกพ่อแม่มุสลิมว่าจะส่งไปเรียนนอกแหล่งสลัม โดยนำเด็กไปเรียนทางภาคใต้ก่อน อย่าเอาเด็กอายุเกิน 10 ปีเด็ดขาด จำไว้ว่าคนของมันฆ่าฟันกันเอง
3.การพนัน หวยมาเลย์ เราต้องเป็นเจ้ามือเพียงผู้เดียว ดูว่ายังมีคนพุทธเป็นเจ้ามือหรือไม่ ฆ่าทิ้งเสีย เพราะเงินส่วนนี้ต้องใช้มาก เจ้ามือของเราต้องแทรกเข้าไปทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน และรับซื้อหวยไทย หวยออมสิน หวย ธ.ก.ส. ด้วยเงินมันฆ่ามัน เพิ่มหวยมาเลย์ ABCD ( 4 ตัว) ไปยังจังหวัดอื่นๆ นอกเหนือ 3 จังหวัดที่เราครอบครองได้แล้ว จ่ายให้สูงกว่าหวยไทย ตอนนี้ TS ไปแล้วยิ่งง่าย
4.การจ้างคนทำลาย พระสงฆ์ วัด ต้องทำต่อเนื่อง เอาคนของเราแทรกเข้าไปในวัด ให้มากที่สุด เฉพาะตีโอบจากทางเหนือลงมาโดนเร็ว เราสูญเสียเด็กจู่โจมฝึกอย่างดีไปมาก ก็ต้องหาเพิ่ม
5.อย่าให้คนไทยพุทธ และอิสลามได้มีความรู้ สบช่องต้องเผาโรงเรียน เพิ่มปอเนาะเพื่อการปลุกระดม เร่งให้มุสลิมชายหญิง อายุ 12-13 ปี แต่งงานให้ได้กำลังคนมากที่สุด
6.การดึงเศรษฐกิจของ มันมาเป็นของเรา ต้องเร่งทำ เข้าร่วมทุนโดย ใช้มุสลิมพื้นที่เข้าไปซื้อที่ดิน กิจการรีสอร์ท โรงแรมฝั่งตะวันตก ต้องเก็บเป็นของกลุ่มเราโดนเร็ว การเปลี่ยนมือมาเป็นของเราง่ายๆ ในภายหลัง การคืบคลานไปซื้อทางภาคอื่น หรือในกรุงเทพก็ต้องทำ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน
7. เริ่งทำลายกิจการในพื้นที่ทุกกิจการ เริ่มจากธนาคาร สถานที่ราชการ ศูนย์การค้า เร่งฆ่าคนจะได้ไม่เข้าโชว์รูมรถ สถานที่รถไฟ ขนส่ง ท่าอากาศยาน แก๊ส ปั๊มน้ำมัน กิจการใดไม่ใช่ของมุสลิม ทำลายโดนเร็ว ให้ส่งสารให้พวกเรารู้ก่อนลงมือทำ คนของเราจะได้ไม่ไปโดนลูกหลง เพราะต้องเอาอิสลามหรือพุทธใต้บางกลุ่มไว้ใช้งานของเ ราก่อน
8.การ ฆ่าคนพุทธเพิ่มมุสลิม ทำให้ได้วันละ 2,000 คน เดือนละ 60,000 คน ปีละ 720,000 คน การที่คนของเราไปแต่งงานกับคนพุทธ ดึงคนมาได้ ลูกจะเป็นมุสลิมปีละ 5,000,000 ต้องทำได้ หลังจากนั้นจะทวีคูณ เป็นการกลืนคนโดยง่ายดาย การมีมุสลิมต่อรองเป็นสิ่งสำคัญ
9.เน้น การแย่งชิงผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจ โดยใช้สุลต่าน หรือพระองค์หญิงที่เกิดจาก รายา ประไหมสุหลี มะเดหวี ก็ต้องทำ เลือกแต่งกับผู้มีเงิน มีตำแหน่ง โดยเฉพาะสายการบิน กิจการเหล็ก ทอง แร่อื่นๆ กระจายเรื่องนี้ลงในมุสลิมทางใต้ด้วย ครอบงำกิจการโทรคมนาคม โดยมุสลิมอย่างเงียบ อาจะใช้คนจีนมีเชื้อมุสลิมเข้าไปก่อน
10.การ วางคนของเราเข้าไปในกิจการการเงินทุกองค์กร การมีเงินคือ การมีอำนาจใส่หัวมุสลิมทุกคนไว้ เมื่อคนของเรา คุมการคลัง กองกำลัง การเงินในทุกหน่วยงานแล้ว จะได้ต่อรองให้มุสลิมอยู่ในตำแหน่งสูงๆ ทุกกระทรวง ขณะนี้ได้ผลปานกลางเท่านั้น ต้องให้ได้เป็นผู้ว่าการรัฐทุกรัฐ ทุก DISTRICT, SUB DISTRICT หรือแม้แต่วัดไทย ก็ต้องใช้คนของเรา เข้าไปทำบัญชีวัด ต้องคุมวัดให้ได้ด้วย ในกิจการของ KTB ได้ผลพอประมาณ ต้องให้กลุ่มมุสลิมเข้าไปในธนาคารอื่นด้วย เพิ่มไปที่ธนาคารสงเคราะห์อีก เพราะจะได้ช่วยกลุ่มมุสลิมให้มีฐานะ ต่อไปค่อยเข้าไปธนาคารของต่างชาติ
11. การสร้างสถานการณ์ เรื่องมุสลิมใต้ถูกรังแก ต้องทำต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดให้มาก ให้กลุ่มอัลไคด้ารู้ ส่งต่อให้ JI. เข้าดำเนินการทำลายมัน
12.การทำแผนที่จุดสำคัญๆ ในเมืองหลวง เมืองใหญ่ๆ ในไทย ต้องเร่งทำให้เสร็จ เด็กเราส่งไปเรียนตามสถาบันดังๆ เวลาว่างก็ให้เร่งทำช่วยกันเรื่องการเงินไม่ต้องห่วง ให้ใช้เงินที่เก็บจากค่าคุ้มครอง 4 จังหวัดใต้ลงไป และเร่งออกข่าวทางวิทยุ TV, MOBILE ให้กลุ่ม AKD รู้ ให้ MD ดำเนินการต่อ
13.การปลุกระดม กลุ่มมุสลิมในอยุธยา นครสวรรค์ ต้องเร่งทำให้เหมือนทุ่งครุ หนองจอก มีนบุรีดีมาก ที่เชียงราย บางแสน ทำต่อเนื่อง ทางโรงเกลือคนของเราไปสำรวจแล้ว เอาคนของเราข้ามไปฝั่งเขมร ไอหุ้นที่กาสิโนตามมอเตอร์ตะเข็บชายแดน รวมทั้งกาสิโนที่เกาะสอง ขณะนี้คนเข้าเราอยู่ในระนองมากพอแล้ว พอเหมาะแล้วกับการจะเอาภาคใต้ทั้งหมดไว้ก่อน เร่งสร้างมัสยิดเล็กๆ อย่าให้พุทธมันไหวตัว เร่งแทรกซึมเหมือนน้ำ
14.ส่งคนเคลื่อนไหวของ เรา ไปบอกให้มุสลิมร่ำรวยจากทำธุรกิจมีรายได้ดี รายได้มาก ลงขันส่งเด็กมุสลิมไปนอก และเด็กพวกนี้ฝึกมาจากอัฟกานิสถานได้ผลดี เร่งทำต่อเนื่องอย่าหยุด ที่ปากีสถาน อินเดีย เราทำเหมือนกัน เกือบครึ่งของอินเดีย เป็นมุสลิมภายใน 6 ปี ครึ่งหนึ่งของไทย ต้องเป็นมุสลิมใน 10 ปี กลืนได้หมด เรื่องนี้เป็นความลับ ต้องเพิ่มแขนงแพทย์
15.การวางคนสืบทอดระยะยาว ปลุกจิตสำนึกบ่อยๆ ท่าน MD บอกว่า ถึงแม้รุ่นทันไม่ทัน ก็ต้องทำต่อไป โดยมีรุ่นเรา และรุ่นเด็กสืบทอดไปทุกๆหน่วยของเรา เลือกเด็กฉลาดรับด้านศาสนา เป็นผู้นำปลุกฝัง ทำเพื่ออัลเลาะห์ ได้ขึ้นสวรรค์ทุกๆเวลาละหมาด การสร้างผู้นำในทุกกลุ่มสำคัญ โดนเฉพาะหน่วยฆ่า แผน 2,4,8,16,32 ใช้ได้เสมอ เน้นการฟังมวลชน
16.การล่อใจคนพุทธ การเปลี่ยนศาสนา ได้***้เงินไม่มีดอกเบี้ย ต่อไปจ่ายเล็กน้อย หวังผลภายหน้า พวกนี้จะจ่ายช่วยกลับมาภายหลัง ทำต่อไปเหมือนโซ่
17.การฮุบธุรกิจ ภายหลัง ดูว่าหุ้นส่วนใดไม่ระวังตัว บอก JI. เข้าดำเนินการทำลายล้าง ฆ่าหุ้นส่วน แล้วดึงกิจการมาไว้ในมือมุสลิมใต้ก่อน
18.การอำนวย ความสะดวกชายแดนทุกจุดให้มันเอาเงินมาทิ้ งที่เรา การเข้าออกสะดวก การให้บริการที่ดี เน้น เก็นติ้ง เพราะคนของมันเข้ามามากๆ ส่งคนของเราเข้าตีสนิท สืบถามเรื่องกิจการภูเก็ต กระบี่ พังงา เรายึดแทบนี้ไว้ให้ได้ทั้งหมด เพื่อด้านท่องเที่ยวเป็นของเรา
19. เป็นที่น่ายินดีขณะนี้ เร่งส่งคนเข้าแดนไทยให้มากที่สุด ก่อนที่มันจะสำรวจทะเบียนใหม่ การมีถิ่นฐานในไทย ก็เป็นการได้ซื้อที่ดินของมันไว้ให้มากที่สุด ก่อนที่มันจะกั้นแดน เราล้ำทุกตารางเซ็น
20.ทุกครั้งที่ได้โอกาส ต้องขอโน่นขอนี่ ที่เป็นประโยชน์ต่อเราให้มากที่สุด การวางตัวคนเข้าพรรคการเมือง ไปสู่เส้นทางบริหาร เข้าใกล้ KING สำคัญ แหล่งศาสนาแหล่งใหญ่มากคือ TK เอาคนของเราเข้าใกล้โดนเร็ว ใช้เงิน AKD จะส่งมาเร็วๆนี้ เข้าไปทำบุญ ซื้อใจทุกวัดที่ใหญ่ๆ คนเดินสารต้อง FAX ให้รู้ ไม่ต้อง FAX ไป KL เหนือ FAX - KLT จำไว้
21.เร่งการต่อรองให้เราปกครองตนเอง การมีกฏหมายอิสลามใช้บริการใน 4 จังหวัดต้องเร่งทำ เพื่อการแยกออกมาของเราจะได้ง่ายขึ้น
22. ปลุกปั้น ปลุกเร้าให้มุสลิมใต้ ขับไล่ทหารออกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้คุ้มครองมุสลิมและไทยพุทธ ที่นอกกรอบให้ออกไปจาก 4 จังหวัด ขณะนี้การฝึกของพวกเราทำไม่สะดวก กลุ่มปะนาเระถูกจับตา เราต้องเข้าไปทางบาโจ ป้าบูโด BOR K ในเหนือของไทย
23.เรื่องยาเสพ ติด ต้องทำต่อ อาจย้ายแหล่งผลิตไปในเขมรหรือลาว ส่วนในฝั่งตรงข้ามเกาะสอง ผลิตได้เร่งขาย สะสมเงิน เพื่อกิจการใหญ่ของเรา ในกรณีที่โดนจับให้ทุ่มเงินจ่าย ให้ตำรวจท้องถิ่น ถ้ามันขัดขืนก็เก็บมันเสีย ส่งไปไว้แถวพรุ ขณะนี้ทหารโจมตี ให้แหล่งผลิตเก็บอุปกรณ์ไปทางระนอง ใช้ถนนแดง เรือ ท่อระบายน้ำมีประโยชน์
24.การแลกเงินไทยเป็นดอลลาร์ ต้องแลกเปลี่ยนทุกวัน เพื่อไม่ให้ BANK รู้หรือไหวตัว
25. ให้มุสลิมพื้นที่ไทย ซื้อเงิน บัตรเงิน หรือ แซงชั่นอื่นๆเกี่ยวกับเงิน ต้องดูสม่ำเสมอ เอาเงินไทยจาก PT, NS, ST, YL ซื้อไปก่อน MD จะส่งคืน ขอให้แทรกแซงกิจการเงินให้ได้
26.เกี่ยวกับกิจการเงินในพระสงฆ์ไทย ให้แนะนำฝากที่เรา ส่งคนของเราตีสนิท ดึงไปที่ธนาคารเรา ให้ดอกสูงกว่าที่อื่น profit ดี สร้างความเชื่อถือแก่ MT.B เงิน LB. สนับสนุนอยู่แล้ว
27.การให้รายได้เพิ่ม จากอาหารคนและสัตว์ เงินจากการขายอาหารแมว สุนัข ฯลฯ ดีมาก เร่งสร้างอาหารฮาร๊าลในหมู่เรา และส่งอาหรับ เงินส่วนนี้จะช่วยเพิ่มมุสลิมในยุโรป สหรัฐ จีน ออสเตเรีย ญี่ปุ่น
28.กว้านซื้อที่ดิน ชายทะเล ที่ MD. บอกไว้ ท่านให้เร่งหาทำเพิ่ม ไม่ติดทะเลไม่เอา ราคาสูงก็ต้องเอา ต้องการผืนใหญ่ๆ
29.ขณะนี้ได้เปรียบ เร่งดำเนินการ กฎระเบียบของเราทำให้เสร็จใน 1 ปี ถ้าช้าจะเสียเวลา ถ้าต้องการเงินทุ่มซื้อ ให้จ่ายไป
30. ระวังการดักฟังการสื่อสาร การรู้เอกสารข้อมูล ประชุมทุกเรื่องเก็บมิดชิด การรับฟังสารราชการ ต้องให้ได้ทำต่อ มุสลิมรับข่าวสารส่วนล่างที่ยังใหม่ ไม่ต้องเขียนบันทึก
31.ติดต่อเรื่องที่หลบซ่อนกลุ่มนกเข้าชวา ติดต่อไปล่วงหน้าทุกครั้ง บ้านไทยพุทธที่พ่อแม่ถูกฆ่า ดึงเด็กมาเป็นของเรา เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ย้ำประวัติศาสตร์ทุกวัน อิหม่ามถูกฆ่าให้ฆ่าพระ, อุสต๊าสถูกฆ่าให้ฆ่าครู
32.ผลักดันเรื่องมุสลิมโดนรังแกโดยทหาร ตำรวจฆ่า ต้องทำต่อไป และผลักดันให้เข้าไปหา MD. , ออกข่าวให้มุสลิมกลาง ส่งเงินมาให้ ผลักดันให้มากๆกว่านี้
33.ดึงเด็กที่พ่อแม่มีฐานะ ไปเรียนในปีนัง อัพแลนด์ ต้องทำต่อเนื่อง มี 180 คนไม่พอ ( 2 ปีนี้ต้องให้ได้ 2,000 คน) ให้เร่งทำไปที่ HI, BKK, TRANG เพื่อการฝังหัว
34. การผูกขาดสินค้าจำเป็น และอาหารเสริมกับพ่อค้าชาวไทย ไม่ทำการเปลี่ยน NAME สลากในแดนไทยให้ทำในเรา ร่วมถึงเรื่องน้ำมัน PITRO ดูราคา ถ้าไทยสูงกว่าให้ส่งเข้าไป ถ้าไทยต่ำ เราซื้อมาสะสมไว้ แล้วจึงปล่อยกลับไปเมื่อไทยราคาสูง
ประเทศไทยจาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคุณนะ
ที่มา : http://paiking.ipbfree.com/index.php?showtopic=8223
TS - ทักษิณ
KTB - ธนาคารกรุงไทย
AKD - อัลไคด้า (กลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ)
MD - มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
KL - กัวลาลัมเปอร์
TK - ธรรมกาย
JI - ขบวนการก่อการร้ายในอินโดนีเซีย
BOR K. - ชายแดนรัฐกลันตัน
PT - ปัตตานี
NS - นราธิวาส
ST - สตูล
YL - ยะลา
LB - ลิเบีย
MT.B - ธนาคารทหารไทย
HI - หาดใหญ่
BKK - กรุงเทพฯ
TRANG - ตรัง
KLT - ?
........................... อยากให้เด็กไทยทุกคนได้อ่านนะ.....................
กลยุทธ์ที่ใช้มีดังนี้ (ตาลาลี๊ ตั่มปง)
ต้องเจาะให้ไทยมันเลือดไหลหมดตัว แล้วมันค่อยๆตาย โดยที่
1.การยุยงให้มันทะเลาะกันในหมู่พระสงฆ์ กษัตริย์ นักการเมือง ประชาชน นักศึกษา อาจจะต้องใช้เงินมากก็ต้องยอม
2. การขโมยเด็กไทยพุทธ ที่ทำมา 39 ปีแล้ว ต้องทำต่อ เพราะเด็กพวกนี้นำมาฝึกใช้งานได้ผลดี แต่เหลือเพียงไม่กี่ร้อย คงต้องใช้เงินไปซื้อ เด็กทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือสลับในภาคกลาง ถ้าไม่ได้เด็กไทยพุทธตามจำนวน ก็ต้องหลอกพ่อแม่มุสลิมว่าจะส่งไปเรียนนอกแหล่งสลัม โดยนำเด็กไปเรียนทางภาคใต้ก่อน อย่าเอาเด็กอายุเกิน 10 ปีเด็ดขาด จำไว้ว่าคนของมันฆ่าฟันกันเอง
3.การพนัน หวยมาเลย์ เราต้องเป็นเจ้ามือเพียงผู้เดียว ดูว่ายังมีคนพุทธเป็นเจ้ามือหรือไม่ ฆ่าทิ้งเสีย เพราะเงินส่วนนี้ต้องใช้มาก เจ้ามือของเราต้องแทรกเข้าไปทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน และรับซื้อหวยไทย หวยออมสิน หวย ธ.ก.ส. ด้วยเงินมันฆ่ามัน เพิ่มหวยมาเลย์ ABCD ( 4 ตัว) ไปยังจังหวัดอื่นๆ นอกเหนือ 3 จังหวัดที่เราครอบครองได้แล้ว จ่ายให้สูงกว่าหวยไทย ตอนนี้ TS ไปแล้วยิ่งง่าย
4.การจ้างคนทำลาย พระสงฆ์ วัด ต้องทำต่อเนื่อง เอาคนของเราแทรกเข้าไปในวัด ให้มากที่สุด เฉพาะตีโอบจากทางเหนือลงมาโดนเร็ว เราสูญเสียเด็กจู่โจมฝึกอย่างดีไปมาก ก็ต้องหาเพิ่ม
5.อย่าให้คนไทยพุทธ และอิสลามได้มีความรู้ สบช่องต้องเผาโรงเรียน เพิ่มปอเนาะเพื่อการปลุกระดม เร่งให้มุสลิมชายหญิง อายุ 12-13 ปี แต่งงานให้ได้กำลังคนมากที่สุด
6.การดึงเศรษฐกิจของ มันมาเป็นของเรา ต้องเร่งทำ เข้าร่วมทุนโดย ใช้มุสลิมพื้นที่เข้าไปซื้อที่ดิน กิจการรีสอร์ท โรงแรมฝั่งตะวันตก ต้องเก็บเป็นของกลุ่มเราโดนเร็ว การเปลี่ยนมือมาเป็นของเราง่ายๆ ในภายหลัง การคืบคลานไปซื้อทางภาคอื่น หรือในกรุงเทพก็ต้องทำ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน
7. เริ่งทำลายกิจการในพื้นที่ทุกกิจการ เริ่มจากธนาคาร สถานที่ราชการ ศูนย์การค้า เร่งฆ่าคนจะได้ไม่เข้าโชว์รูมรถ สถานที่รถไฟ ขนส่ง ท่าอากาศยาน แก๊ส ปั๊มน้ำมัน กิจการใดไม่ใช่ของมุสลิม ทำลายโดนเร็ว ให้ส่งสารให้พวกเรารู้ก่อนลงมือทำ คนของเราจะได้ไม่ไปโดนลูกหลง เพราะต้องเอาอิสลามหรือพุทธใต้บางกลุ่มไว้ใช้งานของเ ราก่อน
8.การ ฆ่าคนพุทธเพิ่มมุสลิม ทำให้ได้วันละ 2,000 คน เดือนละ 60,000 คน ปีละ 720,000 คน การที่คนของเราไปแต่งงานกับคนพุทธ ดึงคนมาได้ ลูกจะเป็นมุสลิมปีละ 5,000,000 ต้องทำได้ หลังจากนั้นจะทวีคูณ เป็นการกลืนคนโดยง่ายดาย การมีมุสลิมต่อรองเป็นสิ่งสำคัญ
9.เน้น การแย่งชิงผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจ โดยใช้สุลต่าน หรือพระองค์หญิงที่เกิดจาก รายา ประไหมสุหลี มะเดหวี ก็ต้องทำ เลือกแต่งกับผู้มีเงิน มีตำแหน่ง โดยเฉพาะสายการบิน กิจการเหล็ก ทอง แร่อื่นๆ กระจายเรื่องนี้ลงในมุสลิมทางใต้ด้วย ครอบงำกิจการโทรคมนาคม โดยมุสลิมอย่างเงียบ อาจะใช้คนจีนมีเชื้อมุสลิมเข้าไปก่อน
10.การ วางคนของเราเข้าไปในกิจการการเงินทุกองค์กร การมีเงินคือ การมีอำนาจใส่หัวมุสลิมทุกคนไว้ เมื่อคนของเรา คุมการคลัง กองกำลัง การเงินในทุกหน่วยงานแล้ว จะได้ต่อรองให้มุสลิมอยู่ในตำแหน่งสูงๆ ทุกกระทรวง ขณะนี้ได้ผลปานกลางเท่านั้น ต้องให้ได้เป็นผู้ว่าการรัฐทุกรัฐ ทุก DISTRICT, SUB DISTRICT หรือแม้แต่วัดไทย ก็ต้องใช้คนของเรา เข้าไปทำบัญชีวัด ต้องคุมวัดให้ได้ด้วย ในกิจการของ KTB ได้ผลพอประมาณ ต้องให้กลุ่มมุสลิมเข้าไปในธนาคารอื่นด้วย เพิ่มไปที่ธนาคารสงเคราะห์อีก เพราะจะได้ช่วยกลุ่มมุสลิมให้มีฐานะ ต่อไปค่อยเข้าไปธนาคารของต่างชาติ
11. การสร้างสถานการณ์ เรื่องมุสลิมใต้ถูกรังแก ต้องทำต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดให้มาก ให้กลุ่มอัลไคด้ารู้ ส่งต่อให้ JI. เข้าดำเนินการทำลายมัน
12.การทำแผนที่จุดสำคัญๆ ในเมืองหลวง เมืองใหญ่ๆ ในไทย ต้องเร่งทำให้เสร็จ เด็กเราส่งไปเรียนตามสถาบันดังๆ เวลาว่างก็ให้เร่งทำช่วยกันเรื่องการเงินไม่ต้องห่วง ให้ใช้เงินที่เก็บจากค่าคุ้มครอง 4 จังหวัดใต้ลงไป และเร่งออกข่าวทางวิทยุ TV, MOBILE ให้กลุ่ม AKD รู้ ให้ MD ดำเนินการต่อ
13.การปลุกระดม กลุ่มมุสลิมในอยุธยา นครสวรรค์ ต้องเร่งทำให้เหมือนทุ่งครุ หนองจอก มีนบุรีดีมาก ที่เชียงราย บางแสน ทำต่อเนื่อง ทางโรงเกลือคนของเราไปสำรวจแล้ว เอาคนของเราข้ามไปฝั่งเขมร ไอหุ้นที่กาสิโนตามมอเตอร์ตะเข็บชายแดน รวมทั้งกาสิโนที่เกาะสอง ขณะนี้คนเข้าเราอยู่ในระนองมากพอแล้ว พอเหมาะแล้วกับการจะเอาภาคใต้ทั้งหมดไว้ก่อน เร่งสร้างมัสยิดเล็กๆ อย่าให้พุทธมันไหวตัว เร่งแทรกซึมเหมือนน้ำ
14.ส่งคนเคลื่อนไหวของ เรา ไปบอกให้มุสลิมร่ำรวยจากทำธุรกิจมีรายได้ดี รายได้มาก ลงขันส่งเด็กมุสลิมไปนอก และเด็กพวกนี้ฝึกมาจากอัฟกานิสถานได้ผลดี เร่งทำต่อเนื่องอย่าหยุด ที่ปากีสถาน อินเดีย เราทำเหมือนกัน เกือบครึ่งของอินเดีย เป็นมุสลิมภายใน 6 ปี ครึ่งหนึ่งของไทย ต้องเป็นมุสลิมใน 10 ปี กลืนได้หมด เรื่องนี้เป็นความลับ ต้องเพิ่มแขนงแพทย์
15.การวางคนสืบทอดระยะยาว ปลุกจิตสำนึกบ่อยๆ ท่าน MD บอกว่า ถึงแม้รุ่นทันไม่ทัน ก็ต้องทำต่อไป โดยมีรุ่นเรา และรุ่นเด็กสืบทอดไปทุกๆหน่วยของเรา เลือกเด็กฉลาดรับด้านศาสนา เป็นผู้นำปลุกฝัง ทำเพื่ออัลเลาะห์ ได้ขึ้นสวรรค์ทุกๆเวลาละหมาด การสร้างผู้นำในทุกกลุ่มสำคัญ โดนเฉพาะหน่วยฆ่า แผน 2,4,8,16,32 ใช้ได้เสมอ เน้นการฟังมวลชน
16.การล่อใจคนพุทธ การเปลี่ยนศาสนา ได้***้เงินไม่มีดอกเบี้ย ต่อไปจ่ายเล็กน้อย หวังผลภายหน้า พวกนี้จะจ่ายช่วยกลับมาภายหลัง ทำต่อไปเหมือนโซ่
17.การฮุบธุรกิจ ภายหลัง ดูว่าหุ้นส่วนใดไม่ระวังตัว บอก JI. เข้าดำเนินการทำลายล้าง ฆ่าหุ้นส่วน แล้วดึงกิจการมาไว้ในมือมุสลิมใต้ก่อน
18.การอำนวย ความสะดวกชายแดนทุกจุดให้มันเอาเงินมาทิ้ งที่เรา การเข้าออกสะดวก การให้บริการที่ดี เน้น เก็นติ้ง เพราะคนของมันเข้ามามากๆ ส่งคนของเราเข้าตีสนิท สืบถามเรื่องกิจการภูเก็ต กระบี่ พังงา เรายึดแทบนี้ไว้ให้ได้ทั้งหมด เพื่อด้านท่องเที่ยวเป็นของเรา
19. เป็นที่น่ายินดีขณะนี้ เร่งส่งคนเข้าแดนไทยให้มากที่สุด ก่อนที่มันจะสำรวจทะเบียนใหม่ การมีถิ่นฐานในไทย ก็เป็นการได้ซื้อที่ดินของมันไว้ให้มากที่สุด ก่อนที่มันจะกั้นแดน เราล้ำทุกตารางเซ็น
20.ทุกครั้งที่ได้โอกาส ต้องขอโน่นขอนี่ ที่เป็นประโยชน์ต่อเราให้มากที่สุด การวางตัวคนเข้าพรรคการเมือง ไปสู่เส้นทางบริหาร เข้าใกล้ KING สำคัญ แหล่งศาสนาแหล่งใหญ่มากคือ TK เอาคนของเราเข้าใกล้โดนเร็ว ใช้เงิน AKD จะส่งมาเร็วๆนี้ เข้าไปทำบุญ ซื้อใจทุกวัดที่ใหญ่ๆ คนเดินสารต้อง FAX ให้รู้ ไม่ต้อง FAX ไป KL เหนือ FAX - KLT จำไว้
21.เร่งการต่อรองให้เราปกครองตนเอง การมีกฏหมายอิสลามใช้บริการใน 4 จังหวัดต้องเร่งทำ เพื่อการแยกออกมาของเราจะได้ง่ายขึ้น
22. ปลุกปั้น ปลุกเร้าให้มุสลิมใต้ ขับไล่ทหารออกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้คุ้มครองมุสลิมและไทยพุทธ ที่นอกกรอบให้ออกไปจาก 4 จังหวัด ขณะนี้การฝึกของพวกเราทำไม่สะดวก กลุ่มปะนาเระถูกจับตา เราต้องเข้าไปทางบาโจ ป้าบูโด BOR K ในเหนือของไทย
23.เรื่องยาเสพ ติด ต้องทำต่อ อาจย้ายแหล่งผลิตไปในเขมรหรือลาว ส่วนในฝั่งตรงข้ามเกาะสอง ผลิตได้เร่งขาย สะสมเงิน เพื่อกิจการใหญ่ของเรา ในกรณีที่โดนจับให้ทุ่มเงินจ่าย ให้ตำรวจท้องถิ่น ถ้ามันขัดขืนก็เก็บมันเสีย ส่งไปไว้แถวพรุ ขณะนี้ทหารโจมตี ให้แหล่งผลิตเก็บอุปกรณ์ไปทางระนอง ใช้ถนนแดง เรือ ท่อระบายน้ำมีประโยชน์
24.การแลกเงินไทยเป็นดอลลาร์ ต้องแลกเปลี่ยนทุกวัน เพื่อไม่ให้ BANK รู้หรือไหวตัว
25. ให้มุสลิมพื้นที่ไทย ซื้อเงิน บัตรเงิน หรือ แซงชั่นอื่นๆเกี่ยวกับเงิน ต้องดูสม่ำเสมอ เอาเงินไทยจาก PT, NS, ST, YL ซื้อไปก่อน MD จะส่งคืน ขอให้แทรกแซงกิจการเงินให้ได้
26.เกี่ยวกับกิจการเงินในพระสงฆ์ไทย ให้แนะนำฝากที่เรา ส่งคนของเราตีสนิท ดึงไปที่ธนาคารเรา ให้ดอกสูงกว่าที่อื่น profit ดี สร้างความเชื่อถือแก่ MT.B เงิน LB. สนับสนุนอยู่แล้ว
27.การให้รายได้เพิ่ม จากอาหารคนและสัตว์ เงินจากการขายอาหารแมว สุนัข ฯลฯ ดีมาก เร่งสร้างอาหารฮาร๊าลในหมู่เรา และส่งอาหรับ เงินส่วนนี้จะช่วยเพิ่มมุสลิมในยุโรป สหรัฐ จีน ออสเตเรีย ญี่ปุ่น
28.กว้านซื้อที่ดิน ชายทะเล ที่ MD. บอกไว้ ท่านให้เร่งหาทำเพิ่ม ไม่ติดทะเลไม่เอา ราคาสูงก็ต้องเอา ต้องการผืนใหญ่ๆ
29.ขณะนี้ได้เปรียบ เร่งดำเนินการ กฎระเบียบของเราทำให้เสร็จใน 1 ปี ถ้าช้าจะเสียเวลา ถ้าต้องการเงินทุ่มซื้อ ให้จ่ายไป
30. ระวังการดักฟังการสื่อสาร การรู้เอกสารข้อมูล ประชุมทุกเรื่องเก็บมิดชิด การรับฟังสารราชการ ต้องให้ได้ทำต่อ มุสลิมรับข่าวสารส่วนล่างที่ยังใหม่ ไม่ต้องเขียนบันทึก
31.ติดต่อเรื่องที่หลบซ่อนกลุ่มนกเข้าชวา ติดต่อไปล่วงหน้าทุกครั้ง บ้านไทยพุทธที่พ่อแม่ถูกฆ่า ดึงเด็กมาเป็นของเรา เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ย้ำประวัติศาสตร์ทุกวัน อิหม่ามถูกฆ่าให้ฆ่าพระ, อุสต๊าสถูกฆ่าให้ฆ่าครู
32.ผลักดันเรื่องมุสลิมโดนรังแกโดยทหาร ตำรวจฆ่า ต้องทำต่อไป และผลักดันให้เข้าไปหา MD. , ออกข่าวให้มุสลิมกลาง ส่งเงินมาให้ ผลักดันให้มากๆกว่านี้
33.ดึงเด็กที่พ่อแม่มีฐานะ ไปเรียนในปีนัง อัพแลนด์ ต้องทำต่อเนื่อง มี 180 คนไม่พอ ( 2 ปีนี้ต้องให้ได้ 2,000 คน) ให้เร่งทำไปที่ HI, BKK, TRANG เพื่อการฝังหัว
34. การผูกขาดสินค้าจำเป็น และอาหารเสริมกับพ่อค้าชาวไทย ไม่ทำการเปลี่ยน NAME สลากในแดนไทยให้ทำในเรา ร่วมถึงเรื่องน้ำมัน PITRO ดูราคา ถ้าไทยสูงกว่าให้ส่งเข้าไป ถ้าไทยต่ำ เราซื้อมาสะสมไว้ แล้วจึงปล่อยกลับไปเมื่อไทยราคาสูง
ประเทศไทยจาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคุณนะ
ที่มา : http://paiking.ipbfree.com/index.php?showtopic=8223
วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553
คำอวยพรปีใหม่จากในหลวง
พระราชดำรัส
พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
วันอาทิตย์ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
-->
ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ เป็นเวลาที่ เราควรจะระลึกถึงกัน และอวยพรแก่กัน เพื่อเป็นนิมิตหมายอันดี ของปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน ในปีที่แล้ว บ้านเมืองของเรา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง บางเรื่องก็กระทบกระเทือน ถึงฐานะทางเศรษฐกิจ การคลัง การเมือง ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ และความมั่นคงปลอดภัย
สมควรที่เราชาวไทย จะร่วมมือกัน แก้ไขให้คลี่คลายไปโดยเร็ว แต่เรื่องที่ควรแก่การชื่นชมก็มีอยู่มิใช่น้อย ข้าพเจ้าขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่จัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ให้อย่างงดงาม ยิ่งใหญ่ และในคราวที่เจ็บป่วย ก็พากันแสดงความวิตก ห่วงใย อย่างจริงใจ ข้าพเจ้ายังรู้สึกประทับใจอยู่ ที่ได้เห็นท่านทั้งหลาย ไม่ว่าเพศใด วัยใด อยู่ในฐานะหน้าที่ใด พร้อมเพรียงกัน มาให้กำลังใจแก่ข้าพเจ้า
กำลังใจนี้ เป็นพลังอย่างสำคัญ ที่ทำให้คนเรากล้าเผชิญกับปัญหา และอุปสรรค สามารถดำเนินชีวิต และประกอบกิจการงาน ให้ประสบผลสำเร็จที่ดีได้ ในปีใหม่นี้ ขอให้ท่านทั้งหลาย ตั้งจิตตั้งใจ ให้มั่นอยู่ในความเมตตา ปรารถนาดี ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพื่อแต่ละคน จะได้มีกำลังใจ กำลังกาย กำลังความคิด สร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ตน แก่ชาติบ้านเมือง ได้ดั่งที่ตั้งใจปรารถนา
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และประสบแต่สิ่งที่พึงประสงค์ ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน
ที่มา : http://kitsune.exteen.com
พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
วันอาทิตย์ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
-->
ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ เป็นเวลาที่ เราควรจะระลึกถึงกัน และอวยพรแก่กัน เพื่อเป็นนิมิตหมายอันดี ของปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน ในปีที่แล้ว บ้านเมืองของเรา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง บางเรื่องก็กระทบกระเทือน ถึงฐานะทางเศรษฐกิจ การคลัง การเมือง ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ และความมั่นคงปลอดภัย
สมควรที่เราชาวไทย จะร่วมมือกัน แก้ไขให้คลี่คลายไปโดยเร็ว แต่เรื่องที่ควรแก่การชื่นชมก็มีอยู่มิใช่น้อย ข้าพเจ้าขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่จัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ให้อย่างงดงาม ยิ่งใหญ่ และในคราวที่เจ็บป่วย ก็พากันแสดงความวิตก ห่วงใย อย่างจริงใจ ข้าพเจ้ายังรู้สึกประทับใจอยู่ ที่ได้เห็นท่านทั้งหลาย ไม่ว่าเพศใด วัยใด อยู่ในฐานะหน้าที่ใด พร้อมเพรียงกัน มาให้กำลังใจแก่ข้าพเจ้า
กำลังใจนี้ เป็นพลังอย่างสำคัญ ที่ทำให้คนเรากล้าเผชิญกับปัญหา และอุปสรรค สามารถดำเนินชีวิต และประกอบกิจการงาน ให้ประสบผลสำเร็จที่ดีได้ ในปีใหม่นี้ ขอให้ท่านทั้งหลาย ตั้งจิตตั้งใจ ให้มั่นอยู่ในความเมตตา ปรารถนาดี ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพื่อแต่ละคน จะได้มีกำลังใจ กำลังกาย กำลังความคิด สร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ตน แก่ชาติบ้านเมือง ได้ดั่งที่ตั้งใจปรารถนา
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และประสบแต่สิ่งที่พึงประสงค์ ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน
ที่มา : http://kitsune.exteen.com
วิธีดูแลสุขภาพหน้าหนาว
1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพียงพอและครบหมู่ ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอไม่ตรากตรำทำงานหนักจนเกินไป
2. อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่เข้าไปในที่แออัดโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่
3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง ๆ เนื่องจากอาจทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดอยู่ และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน
5. ล้างมือบ่อย ๆ เนื่องจากอาจไปสัมผัสเชื้อโรคที่อยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู แก้วน้ำ เป็นต้น แล้วเผลอไปสัมผัสบริเวณหน้าได้ โดยล้างมือด้วยสบู่ธรรมดา 15-20 วินาที หรือใช้น้ำยาล้างมืออื่น ๆ
6. รักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาวหรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ในที่ที่หนาวมากควรสวมหมวกเพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย
7. หากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรมีผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอจาม ไม่คลุกคลีกับผู้อื่นและหมั่นล้างมือบ่อย ๆ
8. สำหรับปัญหาเรื่องผิวหนัง เราควรให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ถ้าอากาศหนาวมาก ไม่อาบน้ำนาน ๆ ในที่ที่หนาวมาก อาจไม่ต้องอาบน้ำวันละสองครั้งเหมือนฤดูอื่น หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นหรือน้ำมันทาผิว หลังจากเช็ดตัวหมาด ๆ ในกรณีที่มีปัญหาริมฝีปากแตก ควรทาด้วยลิปสติกมันและไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ
ที่มา : www.zheza.com
2. อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่เข้าไปในที่แออัดโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่
3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง ๆ เนื่องจากอาจทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดอยู่ และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน
5. ล้างมือบ่อย ๆ เนื่องจากอาจไปสัมผัสเชื้อโรคที่อยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู แก้วน้ำ เป็นต้น แล้วเผลอไปสัมผัสบริเวณหน้าได้ โดยล้างมือด้วยสบู่ธรรมดา 15-20 วินาที หรือใช้น้ำยาล้างมืออื่น ๆ
6. รักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาวหรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ในที่ที่หนาวมากควรสวมหมวกเพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย
7. หากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรมีผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอจาม ไม่คลุกคลีกับผู้อื่นและหมั่นล้างมือบ่อย ๆ
8. สำหรับปัญหาเรื่องผิวหนัง เราควรให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ถ้าอากาศหนาวมาก ไม่อาบน้ำนาน ๆ ในที่ที่หนาวมาก อาจไม่ต้องอาบน้ำวันละสองครั้งเหมือนฤดูอื่น หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นหรือน้ำมันทาผิว หลังจากเช็ดตัวหมาด ๆ ในกรณีที่มีปัญหาริมฝีปากแตก ควรทาด้วยลิปสติกมันและไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ
ที่มา : www.zheza.com
ความเป็นมาของ วันขึ้นปีใหม่
ความเป็นมาของ วันขึ้นปีใหม่
ในอดีต วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว
4 ครั้งคือ ครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง
ตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น
1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน
การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก
ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน
เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม
ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอา
วันสงกรานต์เป็น วันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการ
เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน
ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก สมควรที่จะ
ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวัน
ขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นใน
กรุงเทพฯเป็นครั้งแรก
การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆมา และในปี พ.ศ.2479 ก็ได้มีการ จัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์
ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นไป
เหตุผลที่ทางราชการได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากวันที่ 1 เมษายนมาเป็นวันที่ 1 มกราคม ก็คือ 1. ไม่ขัดกับพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ 2. เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมพระพุทธศาสนา 3. ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก 4. เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย กิจกรรมที่ชาวไทยส่วนใหญ่มักจะยึดถือปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ได้แก่ 1. การทำบุญตักบาตร โดยอาจตักบาตรที่บ้าน หรือไปที่วัดหรือตามสถานที่ต่างๆที่ทางราชการเชิญชวนไปร่วมทำบุญ 2. การกราบขอพรจากผู้ใหญ่ และอวยพรเพื่อนฝูง การมอบของขวัญ การมอบช่อดอกไม้ หรือการส่งบัตรอวยพร 3. การจัดงานรื่นเริง การจัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือตามหน่วยงานต่างๆ วันขึ้นปีใหม่นับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้ทบทวนถึงการดำเนินชีวิตในอดีต เพื่อจะได้แก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ดีขึ้น
กิจกรรมใน วันขึ้นปีใหม่
วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตรและอุทิศส่วนกุศลผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ฟังเทศน์ ปล่อยปลา ปล่อยนก อวยพรซึ่งกันและกัน หรืออาจจะส่งการ์ดบัตรอวยพร ของขัวญไหว้ผู้ใหญ่เพื่อรับพร และสรงน้ำพระพุทธรูป ประดับธงชาติ และจะเตรียมทำ
ที่มา : www.tlcthai.com
ในอดีต วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว
4 ครั้งคือ ครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง
ตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น
1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน
การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก
ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน
เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม
ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอา
วันสงกรานต์เป็น วันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการ
เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน
ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก สมควรที่จะ
ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวัน
ขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นใน
กรุงเทพฯเป็นครั้งแรก
การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆมา และในปี พ.ศ.2479 ก็ได้มีการ จัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์
ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นไป
เหตุผลที่ทางราชการได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากวันที่ 1 เมษายนมาเป็นวันที่ 1 มกราคม ก็คือ 1. ไม่ขัดกับพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ 2. เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมพระพุทธศาสนา 3. ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก 4. เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย กิจกรรมที่ชาวไทยส่วนใหญ่มักจะยึดถือปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ได้แก่ 1. การทำบุญตักบาตร โดยอาจตักบาตรที่บ้าน หรือไปที่วัดหรือตามสถานที่ต่างๆที่ทางราชการเชิญชวนไปร่วมทำบุญ 2. การกราบขอพรจากผู้ใหญ่ และอวยพรเพื่อนฝูง การมอบของขวัญ การมอบช่อดอกไม้ หรือการส่งบัตรอวยพร 3. การจัดงานรื่นเริง การจัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือตามหน่วยงานต่างๆ วันขึ้นปีใหม่นับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้ทบทวนถึงการดำเนินชีวิตในอดีต เพื่อจะได้แก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ดีขึ้น
กิจกรรมใน วันขึ้นปีใหม่
วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตรและอุทิศส่วนกุศลผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ฟังเทศน์ ปล่อยปลา ปล่อยนก อวยพรซึ่งกันและกัน หรืออาจจะส่งการ์ดบัตรอวยพร ของขัวญไหว้ผู้ใหญ่เพื่อรับพร และสรงน้ำพระพุทธรูป ประดับธงชาติ และจะเตรียมทำ
ที่มา : www.tlcthai.com
คำอวยพรปีใหม่(ไทย/อังกฤษ) เก๋ๆ เท่ห์
Greetings of the New Year. Wishing you all success in the next.
สวัสดีปีใหม่ขออวยพรให้ท่านจงประสบความสำเร็จในทุกๆสิ่งในปีใหม่นี้
A toast to the New Year. May all your resolutions become completed projects.
ดื่มอวยพรฉลองปีใหม่ ขออวยพรให้สิ่งที่ท่านตั้งใจไว้จงสมหวัง
Happy New Year! Thinking of you as we begin anew.
สวัสดีปีใหม่คิดถึงคุณในปีใหม่นี้
We wish you a holiday season that is filled with wonder and delight!
เราขออวยพรให้เทศกาลวันหยุดของคุณเติมเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์และความเบิกบานใจ
A hope for one world family. From ours to yours.
ปรารถนาให้โลกมีสันติ สำหรับครอบครัวคุณ ...จากเรา
One of my favorite gifts is hearing from you. Greetings of the season to you and yours.
ของขวัญลํ้าค่าคือการทราบข่าวคราวจากคุณเทศกาลแห่งอวยพรนี้จงเป็นของคุณและครอบครัว
Season's greetings. Our best to you during the holidays.
เทศกาลส่งความสุขนี้ขอส่งความปรารถนาดีจากเราถึงคุณ
Happy holidays! Wishing you all the joys of the season. Happy holidays!
ขออวยพรให้คุณมีความปีติยินดีตลอดทั้งปี
HAPPY HOLIDAYS! Have a joyous Christmas and a festive New Year! Happy holidays!
ขอให้มีความปีติยินดีในวันคริสต์มาสและรื่นเริงในวันปีใหม่
Merry Christmas and Happy New Year. Hope the season finds you in good cheer.
Merry Christmas and Happy New Year
ขออวยพรให้ท่านได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ
Christmas Greetings Wishing you a prosperous New Year! Christmas Greetings
ขออวยพรให้ท่านจงเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟูตลอดปีใหม่
Season's Greetings-- May love and laughter fill your life at Christmas and throughout the New Year.
เทศกาลแห่งการอวยพร ขออวยพรให้ความรัก และเสียงหัวเราะเติมเต็มชีวิตของคุณ ในวันคริสต์มาสตลอดไปถึงวันปีใหม่
Christmas Cold weather and warm feelings
คริสต์มาสอากาศที่เหน็บหนาวและความรู้ที่อบอุ่น
My wishes for Christmas: 1. Joy to the world 2. Good will toward men 3. Pizza on Earth!
สิ่งที่ฉันปรารถนาในวันคริสต์มาสนี้ 1. คนทั่วโลกมีความสุข 2. ผู้คนอยู่กันอย่างสันติ 3.มีพิชซ่าให้กิน (โจ๊ก)
ที่มา : http://www.igetweb.com/
วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)