วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
หนาวนี้....เที่ยวไหนดีหนอ ? ## ปาย 1 ## เมื่อใกล้เข้าหน้าหนาว คนทำงานส่วนใหญ่ก็เริ่มกระสับกระส่ายหาที่เที่ยวกันแล้ว เพื่อให้รางวัลตัวเองหลังจากทำงานหัวขวิดก้นกะดก เพื่อให้เจ้าของบริษัทรวยขึ้นมาทั้งปีแล้ว ว่าแล้วก็ไปเปิดสมอง สูดอากาศบริสุทธิ์กันสักหน่อย หนีขึ้นเหนือก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่เลวที่เดียว....ปาย.... หนึ่งในเมืองมนต์ขลังที่คนหลายคนอยากไป เพราะความน่ารัก โรแมนติคของตัวเมืองเอง และวิวทิวทัศน์ที่สวยไม่น้อยหน้าที่อื่นเลย ด้วยความที่ไปมาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะแบ่งปันเผื่อคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าปลายปีนี้จะเอาเงินไปใช้ที่ไหนดีหน้อวันที่หนึ่ง - เพื่อประหยัดงบประมาณ ก็เดินทางด้วยพาหนะสุดคลาสสิค -- รถไฟ -- การเดินทางคงไม่พ้นเริ่มต้นที่หัวลำโพง
ออกจากกรุงเทพฯตอนเย็น ไปถึงเชียงใหม่ก็ตอนเช้าพอดี การเดินทางในทริปนี้ก็ใช้บริการเช่ารถตู้ คุณลุงแกขับมากว่า 20 ปีแล้วเชื่อมือได้ แกบอก ที่แรกที่แวะก็คือปางช้างที่จำชื่อไม่ได้แล้ว มีช้างหลายเชือกที่เดียว โดยมีทริปให้เลือก 2 ทริปคือ 1 ชั่วโมงกะครึ่งชั่วโมง ช้างหนึ่งเชือกนั่งได้สองคน ข้ามลำคลองให้เสียวเล่นหนึ่งจึ๊ก

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
แนะนำที่เที่ยว
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ทำบุญง่ายๆ ตามภาษาคน ( ไม่ค่อย ) มีเวลา
พูดถึงเวลาถ้าเราจะทำบุญ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญ เป็นส่วนมาก แต่ถ้าหากว่าเราไม่ค่อยมีเวลาตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญ ก็เลยเสียโอกาสในการสะสมบุญของเราวันนี้จึงมีเรื่องมาเล่าให้ทุกๆ คนได้อ่าน พิจารณากัน เผื่อจะได้แง่มุมใหม่ๆ ในการสร้างบุญกุศลสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือมีเวลาทำเป็นปกติอยู่แล้ว แต่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ได้อ่านเพื่อจะได้เข้าใจว่า ถ้าเราทำอย่างที่บอกต่อไปนี้ เราจะได้อะไรบ้าง ?เชื่อว่า ที่บ้านของทุกคนจะต้องมีหิ้งพระบูชาหรือโต๊ะหมู่บูชา แต่ถ้าไม่มีให้หารูปพระมาติดไว้ที่ผนังบ้านก็ได้ จากนั้นให้เราหาขัน หรือกระปุกออมสิน หรือบาตรพระ ทุกวันให้เราทุกคนสละเวลาเพียงวันละประมาณ ๒๐ - ๓๐ นาที สวดมนต์ไหว้พระเวลาไหนก็ได้ที่เราว่าง เราสบายใจ เช้า สาย บ่ายเย็น หรือก่อนนอนก็ได้ โดยเริ่มสวดจากบท " อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิอิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิอิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ อะระหัง สัมมาสัมพุธโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมี( กราบ )สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามี ( กราบ )สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ( กราบ ) "ระหว่างที่ตั้งนะโม ก็ให้เราเอาเงินมาจบไว้ที่มือจะกี่บาทก็ได้ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาทหรือจะมากกว่านั้นก็ได้ตามศรัทธาจากนั้นก็เริ่มสวด" สรณคมนปาฐะ ( พุทธัง สะระนัง)พุทธัง สะระณัง คัจฉามิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯต่อ จากนั้น ก็เริ่มสวด บทพระพุทธคุณ ( อิติปิโส ภะคะวา ฯลฯ ) บทพระธรรมคุณ ( สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ฯลฯ ) บทพระสังฆคุณ ( สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ฯลฯ ) ถ้ามีเวลาให้สวดบท พาหุง มหากา ฯลฯ ต่อ จบแล้วให้กลับมาสวด พระพุทธคุณ บทเดียว ๙ จบ หรือเท่าอายุบวกหนึ่ง ถามว่าเราจะได้อะไรจากการปฏิบัติอย่างนี้ ?๑. ถามว่า ขณะที่เราสวดมนต์อยู่นั้น เราสวดมนต์บูชาใคร ? ตอบ เราสวดมนต์บูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขณะที่สวดจิตเราก็น้อมอยู่กับคุณพระรัตนตรัย ขณะนั้น จิตเรามีพุทธานุสสติ, ธัมมานุสสติ, สังฆานุสสติได้แล้วกรรมฐาน 3 กอง๒. ขณะที่สวดมนต์อยู่นั้น เราสวดมนต์ด้วยจิตที่มีอาการสำรวม มีความตั้งใจในการสวด ถามว่า อาการที่จิตสำรวม มีความตั้งใจในการสวดนั้น เป็นอาการของอะไร ?ตอบ เป็นอาการของสมาธิ ได้แล้วสมาธิเบื้องต้น๓. ขณะที่สวดมนต์ด้วยจิตที่มีอาการสำรวม มีความตั้งใจ จิตของเราก็คอยนึกถึง ระวังไม่ให้หลงลืมในบทสวด ถามว่า อาการที่คอยนึกถึง ระวังไม่ให้หลงลืมในบทสวดนั้น เป็นอาการของอะไร ?ตอบ เป็นอาการของสติ ได้ฝึกสติในการสวดมนต์ไปในตัว4.ขณะ ที่เราสวดมนต์เสร็จตั้งจิตเป็นสมาธิ อธิษฐานจิต เอาเงินที่จบใส่ลงไปในภาชนะที่ได้เตรียมไว้เป็นทานบารมี อธิษฐานบารมี ซึ่งก็วกมาเข้าเรื่องของบารมี ๓๐ ทัศบารมี แปลว่าอะไร ?ความดีที่ควรบำเพ็ญซึ่งประกอบด้วย๑. ทานบารมี ๒. ศีลบารมี ๓. เนกขัมมะบารมี ๔. ปัญญาบารมี ๕. วิริยะบารมี๖. ขันติบารมี ๗. สัจจะบารมี ๘. อธิษฐานบารมี ๙. เมตตาบารมี ๑๐. อุเบกขาบารมีถ้าจะถามว่า การที่เราสวดมนต์เพียงไม่กี่นาทีตรงนี้เราจะได้บารมีอะไรบ้าง ?ตอบ ...๑. ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จเราทำทาน คือเอาเงินที่จบใส่ในขัน ฯลฯ เป็น ทานบารมี๒. ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ในขณะนั้น เราไม่ได้ทำบาปกรรมกับใคร มีศีลอยู่ในขณะที่สวด เป็น ศีลบารมี๓. ขณะที่เราสวดมนต์อยู่จิตเราปราศจากนิวรณ์มารบกวนใจ ถือว่าเป็นการบวชใจ เป็น เนกขัมมะบารมี๔. ถ้าจะถามว่า การที่เราสวดมนต์ไหว้พระ เราทำด้วยความงมงายหรือไม่ ?ตอบ ... ไม่ ทำด้วยศรัทธา ทำด้วยปัญญาที่เห็นว่ามันเป็นประโยชน์ ช่วยฝึกจิตฝึกใจให้เกิดสติ มีสมาธิ เป็น ปัญญาบารมี๕. ถ้าเราไม่มีความเพียร เราก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความเพียรเป็น วิริยะบารมี๖. มีความเพียรแล้ว ไม่มีความอดทน ความเพียรก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความอดทน ความอดทนเป็น ขันติบารมี๗. มีความเพียร มีความอดทนแล้ว แต่ขาดสัจจะในการกระทำ หมายถึง ความจริงใจ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องมีความจริงใจในการประพฤติปฏิบัติ ความจริงใจเป็น สัจจะบารมี๘. เมื่อเราสวดมนต์เสร็จทำสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน การอธิษฐานเป็น อธิษฐานบารมี๙. ใส่บาตรเสร็จก็ต้องแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล การแผ่เมตตาเป็น เมตตาบารมี๑๐. ขณะที่แผ่เมตตา เราก็ต้องทำใจให้เป็นเมตตา ไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งหลาย ทำใจให้เป็นพรหมวิหาร อุเบกขา วางเฉย อโหสิกรรมกับบุคคลที่เราได้เคยล่วงเกินกันมา ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่ชอบใคร ไม่ชังใคร ทำใจให้นิ่ง ทำจิตให้สงบเย็น วางจิตให้เป็นอุเบกขา เป็นอุเบกขาบารมี ( คืออุเบกขาทีทรงด้วยพรหมวิหาร) เพียงแค่เราสวด มนต์เพียงไม่กี่นาทีต่อวัน เราก็ได้บารมีครบถ้วน และสิ่งเหล่านี้เองก็จะสะสมในใจของเราทีละเล็กละน้อย เหมือนเราเก็บเงินวันละบาท 10 วันก็ได้ 10 บาท แต่ถ้าเราไม่ทำอะไร เราก็จะไม่ได้อะไรเลย แล้วเงินที่เราหยอดทุกวันที่ได้จากการสวดมนต์ ก็เหมือนกับเราได้ใส่บาตรทุกวันโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เมื่อมีโอกาสเข้าวัด เราก็เอาเงินนั้นแหละไปทำบุญหยอดตู้บริจาค ซื้อของถวายพระสงฆ์ ได้ซองผ้าป่ามา ก็เอาเงินที่เราสวดนั้นแหละ ใส่เข้าไปในซองผ้าป่า หากมีการสร้างพระ สร้างหนังสือธรรมะ หรืออะไรต่างๆ ที่เป็นสาธารณประโยชน์ก็เอาเงินที่เราหยอดทุกวันนั้นแหละ ไปทำบุญได้อานิสงส์มากแล้วจิตของเราก็จะติดอยู่กับกุศลทุกวัน เมื่อถึงเวลามันก็จะรวมเข้าในจิตของเราเป็นหนึ่งเดียวมีหลายคนที่แนะนำให้ไปทำ ปรากฏว่าทำแล้ว จิตมีสมาธิมากขึ้น มีสติดีขึ้น จากคนที่ใจร้อน ก็ทำให้จิตใจมีอารมณ์เยือกเย็นขึ้น จะคิดทำอะไรก็รู้สึกว่าคล่องตัวมีคนช่วยเหลือก็ฝากไว้เป็นแนวทางปฏิบัติ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำบุญตักบาตรพระ หรือเข้าวัด ถ้าท่านเห็นว่ามีประโยชน์ ก็พยายามเจริญศรัทธาให้มาก ปฏิบัติให้ได้ทุกวัน แล้วท่านจะเห็นผลได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องสงสัย
ที่มา หนังสือสวดมนต์ถวายพรพระ โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน
ที่มา : http://www.whitemedia.org
ที่มา หนังสือสวดมนต์ถวายพรพระ โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน
ที่มา : http://www.whitemedia.org
ข่าวน่ารู้
"การป้องกันโรคมะเร็งเต้านมนั้นทำได้โดยควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน หลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3-4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่สำคัญการบริโภคผักและผลไม้เฉลี่ยวันละ 5 ส่วนขึ้นไป จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 48% โดยเฉพาะการรับประทานผักสีเขียวจัด และผักตระกูลครูซิเฟอรัส เช่น กะหล่ำปลี บรอคโคลี ดอกกะหล่ำ คะน้า กวางตุ้ง และแขนงผัก"
ที่มา : http://medinfo2.psu.ac.th
ที่มา : http://medinfo2.psu.ac.th
เมนูอาหารสุขภาพ
ไอศกรีมข้าวกล้องงอก
ส่วนผสม น้ำข้าวกล้องงอก* 2.5 ถ้วยตวง กะทิสด 1.5 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 120 กรัม เกลือป่น 0.25 ช้อนชา สารละลายกัวร์กัม (Guar Gum) 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเป็นเส้น 50 กรัม เนื้อขนุนหั่นเป็นเส้น 50 กรัม ลอดช่อง 50 กรัม
วิธีทำ - ผสมน้ำข้าวกล้องงอกกับน้ำตาลทรายและเกลือป่นเข้าด้วยกัน นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟ High (800–900 วัตต์) เวลา 1-2 นาที นำออกมาเติมกะทิสด เข้าต่ออีก 2 นาที พักให้เย็น ใส่ในเครื่องปั่นของเหลว พร้อมกับสารละลายกัวร์กัม ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดี - นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงในถังปั่นไอศกรีม ใช้เวลาปั่นประมาณ 30–40 นาที นำออกมาเติมขนุน เนื้อมะพร้าวอ่อน และลอดช่อง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไอศกรีมที่ได้บ่มในช่องแช่แข็ง ประมาณ 2–3 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ
ที่มา : http://women.sanook.com
ไอศกรีมข้าวกล้องงอก
ส่วนผสม น้ำข้าวกล้องงอก* 2.5 ถ้วยตวง กะทิสด 1.5 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 120 กรัม เกลือป่น 0.25 ช้อนชา สารละลายกัวร์กัม (Guar Gum) 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเป็นเส้น 50 กรัม เนื้อขนุนหั่นเป็นเส้น 50 กรัม ลอดช่อง 50 กรัม
วิธีทำ - ผสมน้ำข้าวกล้องงอกกับน้ำตาลทรายและเกลือป่นเข้าด้วยกัน นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟ High (800–900 วัตต์) เวลา 1-2 นาที นำออกมาเติมกะทิสด เข้าต่ออีก 2 นาที พักให้เย็น ใส่ในเครื่องปั่นของเหลว พร้อมกับสารละลายกัวร์กัม ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดี - นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงในถังปั่นไอศกรีม ใช้เวลาปั่นประมาณ 30–40 นาที นำออกมาเติมขนุน เนื้อมะพร้าวอ่อน และลอดช่อง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไอศกรีมที่ได้บ่มในช่องแช่แข็ง ประมาณ 2–3 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ
ที่มา : http://women.sanook.com
108 วิธีสร้างไมตรีจิต
มองและยิ้ม- มองผู้อื่นด้วยสายตาที่เป็นมิตร - ยิ้มให้ผู้อื่นด้วยสายตา ใบหน้า และจิตใจ - ทำความรู้จักกับผู้อื่นด้วยการยิ้มและกล่าวคำทักทาย - โบกมือส่งยิ้มให้เด็ก ๆ - มองคนในแง่ดี - มองว่าคนเราเป็นมิตรกันได้ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทักทาย- ทักทายคนอื่นเมื่อพบกัน - สนทนาทักทายกับเพื่อนร่วมงานเสมอฟัง- ตั้งใจฟังคนอื่นพูด - รับฟังในสิ่งที่เขากำลังทำ หรือสิ่งที่เขากำลังสนใจพูด- ใช้คำพูด 4 คำนี้ให้ติดปาก ขอบคุณ ขอโทษ ดี ช่วย- พูดด้วยคำสุภาพ - พูดชมเชยบุคคลอื่นเป็นประจำ - ผู้ถึงคนอื่นในด้านดี - รู้จักขัดโดยไม่ให้คนอื่นเสียน้ำใจ - หาเรื่องพูดคุยกับคนที่ขาดเพื่อน - พูดด้วยเสียงดังพอสมควร - พูดคุยในสิ่งที่เขาสนใจ - หาข่าวเรื่องดี ๆ มาพูด - ไม่พูดหาเรื่องจับผิดคนอื่น - หาทางพูดคุยกับคนที่ไม่เคยพูดด้วย - โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเกิน 1 ปี - ละเว้นการพูดคำไม่ดี และไม่โกรธ ไม่โมโห อย่างน้องสัปดาห์ละ 1 วันเขียน- เขียนจดหมายหรือไปเยี่ยมคนที่กำลังกลุ้มใจเสียใจ - เขียนจดหมายแสดงความขอบคุณผู้ที่ทำคุณให้แก่เรา - เขียนจดหมายหรือการ์ดแสดงความยินดีในโอกาสพิเศษของผู้อื่น - เขียนจดหมายหรือการ์ดแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย - เขียนคำชมเชยหรือมอบรางวัลให้กับผู้ทำดี - เขียนจดหมายชมเชยการกระทำความดีเป็นพิเศษและประกาศต่อสาธารณะชน - เขียนป้ายเตือนอันตรายไว้ในที่ที่สมควรเตือน - เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรอวยพรเพื่อนเก่าในวันปีใหม่
ที่มา http://www.thaireaderclub.com/
มองและยิ้ม- มองผู้อื่นด้วยสายตาที่เป็นมิตร - ยิ้มให้ผู้อื่นด้วยสายตา ใบหน้า และจิตใจ - ทำความรู้จักกับผู้อื่นด้วยการยิ้มและกล่าวคำทักทาย - โบกมือส่งยิ้มให้เด็ก ๆ - มองคนในแง่ดี - มองว่าคนเราเป็นมิตรกันได้ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทักทาย- ทักทายคนอื่นเมื่อพบกัน - สนทนาทักทายกับเพื่อนร่วมงานเสมอฟัง- ตั้งใจฟังคนอื่นพูด - รับฟังในสิ่งที่เขากำลังทำ หรือสิ่งที่เขากำลังสนใจพูด- ใช้คำพูด 4 คำนี้ให้ติดปาก ขอบคุณ ขอโทษ ดี ช่วย- พูดด้วยคำสุภาพ - พูดชมเชยบุคคลอื่นเป็นประจำ - ผู้ถึงคนอื่นในด้านดี - รู้จักขัดโดยไม่ให้คนอื่นเสียน้ำใจ - หาเรื่องพูดคุยกับคนที่ขาดเพื่อน - พูดด้วยเสียงดังพอสมควร - พูดคุยในสิ่งที่เขาสนใจ - หาข่าวเรื่องดี ๆ มาพูด - ไม่พูดหาเรื่องจับผิดคนอื่น - หาทางพูดคุยกับคนที่ไม่เคยพูดด้วย - โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเกิน 1 ปี - ละเว้นการพูดคำไม่ดี และไม่โกรธ ไม่โมโห อย่างน้องสัปดาห์ละ 1 วันเขียน- เขียนจดหมายหรือไปเยี่ยมคนที่กำลังกลุ้มใจเสียใจ - เขียนจดหมายแสดงความขอบคุณผู้ที่ทำคุณให้แก่เรา - เขียนจดหมายหรือการ์ดแสดงความยินดีในโอกาสพิเศษของผู้อื่น - เขียนจดหมายหรือการ์ดแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย - เขียนคำชมเชยหรือมอบรางวัลให้กับผู้ทำดี - เขียนจดหมายชมเชยการกระทำความดีเป็นพิเศษและประกาศต่อสาธารณะชน - เขียนป้ายเตือนอันตรายไว้ในที่ที่สมควรเตือน - เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรอวยพรเพื่อนเก่าในวันปีใหม่
ที่มา http://www.thaireaderclub.com/
บทความดีๆ
1 นางสาวกวิสรา โรจน์วีระ
รหัส 4924408041
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมันสมอง 6 ข้อ
1. มันสมองเหนื่อยหรือเพลียกับใครไม่เป็น
2. กำลังสมองไม่มีที่สิ้นสุด
3. อัตราส่วนเชาวน์ (I.Q.) นั้นที่จริงไม่ใช่ของสำคัญ
4. แก่แล้วก็เรียนได้ดีเท่าหนุ่มๆเหมือนกัน
5. กำลังสมองจะดีขึ้นถ้าได้ใช้มันอยู่เสมอ
6. จิตใต้สำนึก….คลังอันน่ามหัศจรรย์
รหัส 4924408041
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมันสมอง 6 ข้อ
1. มันสมองเหนื่อยหรือเพลียกับใครไม่เป็น
2. กำลังสมองไม่มีที่สิ้นสุด
3. อัตราส่วนเชาวน์ (I.Q.) นั้นที่จริงไม่ใช่ของสำคัญ
4. แก่แล้วก็เรียนได้ดีเท่าหนุ่มๆเหมือนกัน
5. กำลังสมองจะดีขึ้นถ้าได้ใช้มันอยู่เสมอ
6. จิตใต้สำนึก….คลังอันน่ามหัศจรรย์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)